7 วิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด พร้อมสิ่งที่ต้องรู้ก่อน

หากคุณหรือใครก็ตามมีความคิดจะขายบ้านในช่วงนี้ เนื่องจากทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว อะไร ๆ ก็แพงไปหมด มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่เงินเดือนเท่าเดิม อยากขายบ้านแต่บ้านติดธนาคารและยังต้องผ่อนอยู่จะทำยังไง มีวิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดหรือไม่ ใบบทความนี้เราจะพาคุณมาไขข้อสงสัย บ้านที่ยังผ่อนไม่หมดหรือบ้านที่ติดจำนองอยู่จะทำยังไงให้ขายได้ รวมสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนคิดจะขายบ้าน

 

บ้านที่ยังผ่อนไม่หมด ขายได้ไหม

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการจะขายบ้านที่ยังมีการผ่อนอยู่ได้ คุณจะต้องผ่อนให้หมด หรือนำเงินก้อนที่มีไปปิดย้อนก่อนถึงจะขายได้ ซึ่งอาจเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะจริง ๆ แล้ว ธนาคารยินยอมให้คุณนำบ้านไปขาย แต่เมื่อขายได้แล้วก่อนที่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อหรือเจ้าของบ้านรายใหม่ คุณจำเป็นต้องนำเงินที่ขายบ้านได้นำมาใช้หนี้ธนาคารทั้งหมด ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดที่หลาย ๆ คนอาจไม่รู้

 

บ้านติดธนาคาร

บ้านติดธนาคาร เป็นการนำบ้านไปกู้ขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือนำไปจดจำนองเพื่อขอกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยจะใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยจะมีการคืนเงินให้แก่ธนาคารโดยการผ่อนที่จะมีการรวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ด้วยกัน

 

บ้านติดจำนอง 

บ้านติดจำนอง เป็นการนำบ้านไปทำสัญญาจดจำนอง ซึ่งสัญญาในที่นี้จะไม่ใช่ธนาคารเป็นผู้ให้กู้ยืมเงิน แต่จะเป็นการจำนองกับบุคคล นิติบุคคล หรือนายทุนที่รับจำนองบ้านและที่ดิน ซึ่งมักจะมีดอกเบี้ยที่โหดกว่าธนาคาร แต่จะมีโอกาสในการอนุมัติง่ายกว่า และมีความเสี่ยงในการโดนฉ้อโกงมากกว่าการจำนองกับธนาคาร

 

7 วิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด 

 

สำหรับใครที่คิดจะขายบ้าน แต่บ้านที่มียังมีการผ่อนกับธนาคารอยู่ และไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะขายบ้านได้ เราจะมาแนะนำ 7 วิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด ดังนี้

 

1. หาผู้ซื้อบ้าน

ในการหาผู้ซื้อบ้าน คุณสามารถหาได้โดยการโพสต์ลงประกาศขายบ้านฟรีตามกลุ่ม Facebook โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ลงประกาศตามเว็บซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น DDproperty, Hipflat, Dotproperty หรือจ้างเอเจนซี่ให้ช่วยหาคนมาซื้อก็ได้เช่นกัน

 

2. ตกลงทำสัญญาซื้อขาย

การทำสัญญาซื้อขายบ้าน จะมีการวางเงินมัดจำเงินและทำสัญญาซื้อ-ขายระหว่างผู้ซื้อและคุณ โดยจะต้องทำความเข้าใจถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะต้องมีการรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งเจ้าของบ้านจะต้องแจ้งผู้ซื้อให้ชัดเจนว่าบ้านที่ทำการขายนั้นยังมีการผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่สามารถทำเรื่องปลอดจำนองได้ในวันโอนกรรมสิทธิ์

 

3. เตรียมเอกสารและประเมินราคา

สำหรับวิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดอีกหนึ่งอย่างที่ควรให้ความสำคัญ ผู้ซื้อที่ต้องการซื้อบ้านโดยการยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคาร คุณหรือเจ้าของบ้านจะต้องมีสำเนาโฉนดที่ดินพร้อมเอกสารจดจำนองให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ เพื่อนำไปขอสินเชื่อจากธนาคาร และคุณจำเป็นต้องนัดวันสำหรับการเปิดบ้านเพื่อให้ธนาคารเข้ามาประเมินราคา

 

4. นัดโอนกรรมสิทธิ์

หากผู้ซื้อของคุณพร้อมจ่ายเงินหรือได้รับการอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้านจากธนาคารเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อหรือธนาคารที่อนุมัติสินเชื่อจะทำการนัดวันสำหรับการโอนกรรมสิทธิ์กับคุณ ซึ่งจะต้องตกลงวันและเวลาที่จะโอนกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจน เนื่องจากวันโอนมีผลโดยตรงต่อการคิดอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร

 

5. แจ้งสถาบันการเงินที่ติดจำนอง

ถ้าคุณและผู้ซื้อได้ทำการตกลงวันโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว วิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดขั้นตอนต่อมา คุณจะต้องติดต่อกับธนาคารที่บ้านติดภาระ และกำลังผ่อนอยู่ เพื่อทำการแจ้งการซื้อขายและแจ้งขอปิดยอดหนี้ทั้งหมดที่มี และกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์กับธนาคาร

 

6. ชำระค่าใช้จ่าย

คุณหรือเจ้าของบ้านจะต้องทำการชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับการชำระหนี้ที่เหลืออยู่กับธนาคารให้ชัดเจน ว่าจะแบ่งจ่ายเพื่อทำเรื่องปลอดหนี้จำนองอย่างไร และถ้าหากราคาขายบ้านที่มีการประเมินต่ำกว่ายอดหนี้ คุณอาจต้องเตรียมเงินมาจ่ายเพิ่มในส่วนต่างที่เหลือ เพื่อการปลอดจำนองที่ราบรื่นและไร้ปัญหา

 

7. ติดต่อสำนักงานที่ดิน

และวิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน โดยคุณ ธนาคารฝั่งเจ้าของบ้าน ผู้ซื้อ และธนาคารฝั่งผู้ซื้อ จะต้องมาตรวจสอบเอกสารเอกสารต่าง ๆ เพื่อเช็กรายละเอียดทางด้านการเงินเพื่อทำเรื่องปลอดจำนอง และจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ โดยธนาคารฝั่งผู้ซื้อ ก็จะทำเรื่องการจดจำนองของผู้ซื้อต่อ และถือว่าการซื้อขายบ้านระหว่างคุณและผู้ซื้อเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

 

 

สำหรับวิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดสามารถทำได้จริง แม้บ้านของคุณจะติดจำนองกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยเริ่มจากการหาผู้ซื้อบ้าน ตกลงทำสัญญาซื้อขาย เตรียมเอกสารและประเมินราคา นัดโอนกรรมสิทธิ์ แจ้งสถาบันการเงินที่ติดจำนอง ชำระค่าใช้จ่าย และติดต่อสำนักงานที่ดินเพื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถขายบ้านได้แล้ว