คอนโดมือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลดี ราคาไม่แพงเกินไป และพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที แต่กระบวนการซื้อขายอาจซับซ้อนกว่าการซื้อคอนโดใหม่ เพราะต้องมีการตรวจเช็กความเรียบร้อยให้ถี่ถ้วน ทั้งประวัติการโอนกรรมสิทธิ์ และภาระผูกพันต่างๆ อย่างละเอียด นอกจากนี้ การเตรียมเอกสารซื้อคอนโดมือสองให้ครบถ้วนและถูกต้องยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราดำเนินการได้อย่างราบรื่น ในบทความนี้ ProperMu จะมาสรุปให้ทุกคนรู้ว่าการซื้อคอนโดมือสองต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ทั้งในฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงเคล็ดลับยื่นกู้ซื้อคอนโดมือให้ผ่านง่าย ๆ เพื่อให้เราเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ
เอกสารซื้อคอนโดมือสอง มีอะไรบ้าง
การเตรียมเอกสารซื้อคอนโดมือสอง ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต้องให้ความใส่ใจ เอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง มาดูกันว่าแต่ละฝ่ายต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
การเตรียมเอกสารซื้อคอนโดมือสองในฝั่งผู้ซื้อ
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน, หนังสือรับรองเงินเดือน
- สเตทเทนต์บัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- ใบเสร็จรับเงินมัดจำ (กรณีวางมัดจำแล้ว)
การเตรียมเอกสารซื้อคอนโดมือสองในฝั่งผู้ขาย
- บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- ทะเบียนบ้าน (ตัวจริงพร้อมสำเนา)
- โฉนดที่ดิน หรือ อ.ช.2 (ตัวจริง)
- สัญญาซื้อขายห้องชุดฉบับเดิม
- ใบเสร็จชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางล่าสุด
- เอกสารการปลอดจำนอง (กรณีที่มีการจำนองไว้กับสถาบันการเงิน)
4 เคล็ดลับกู้ซื้อคอนโดมือสองให้ผ่าน
การกู้ซื้อคอนโดมือสองอาจมีรายละเอียดที่มากกว่าการยื่นกู้ซื้อคอนโดใหม่ เพราะธนาคารจะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุของอาคาร ประวัติการโอนกรรมสิทธิ์ และสภาพห้อง โดย ProperMu ได้นำเคล็ดลับที่น่าสนใจและช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้ธนาคารพิจารณาได้ง่ายขึ้น ดังนี้
1. เคลียร์ภาระหนี้ทั้งหมด
ก่อนยื่นขอสินเชื่อ ควรจัดการชำระหนี้สินที่มีอยู่ให้หมด หรือลดลงให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้ผ่อนสินค้า การมีภาระหนี้น้อยจะช่วยเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระของเราในสายตาของธนาคาร และเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราได้รับวงเงินกู้ที่สูงขึ้นอีกด้วย
2. รักษาประวัติการกู้ยืมให้ดี
ประวัติการชำระหนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาการให้สินเชื่อ ควรรักษาประวัติการชำระเงินให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหรือชำระล่าช้า หากมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดีในอดีต ควรแก้ไขให้เรียบร้อยและรักษาประวัติที่ดีไว้อย่างน้อย 6-12 เดือนก่อนยื่นขอสินเชื่อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับธนาคาร
3. ทำรายการเดินบัญชีให้สวย
ธนาคารจะนำสเตทเมนต์หรือหลักฐานการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนเป็นอย่างน้อย มาพิจารณาประกอบด้วย ดังนั้น ควรทำให้บัญชีมีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ มียอดเงินคงเหลือที่ดี และไม่มีรายการเดินบัญชีที่ผิดปกติ เช่น เงินเข้าออกจำนวนมากผิดปกติ หรือยอดเงินติดลบ การมีรายการเดินบัญชีที่ดีจะแสดงถึงความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของเรา
4. จัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
การเตรียมเอกสารซื้อคอนโดมือสองให้ครบถ้วนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว นอกจากเอกสารพื้นฐานแล้ว ควรเตรียมเอกสารเพิ่มเติมที่แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ เช่น หลักฐานรายได้เสริม สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือหลักฐานการลงทุนต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อและได้รับวงเงินที่ต้องการ
การเตรียมตัวอย่างรอบคอบในการซื้อคอนโดมือสองเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย การเตรียมเอกสารซื้อคอนโดมือสองอย่างครบถ้วนไม่เพียงแต่จะช่วยให้กระบวนการซื้อขายราบรื่น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร การรักษาสุขภาพทางการเงินที่ดี ทั้งการจัดการหนี้สิน การรักษาประวัติการชำระเงิน และการบริหารบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการเป็นเจ้าของคอนโด การเตรียมพร้อมในทุกด้านจะช่วยให้เราก้าวสู่การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในฝันได้อย่างมั่นใจและปราศจากอุปสรรค